Hong Kong Airlines เครื่องใหม่ เวลาใหม่ถูกใจ ไปเช้า – กลับดึก

Hong Kong Airlines (HX)
Hong Kong Airlines ปรับเวลาใหม่ ออก 8 โมงเช้า กลับ 4 ทุ่ม กับเครื่องใหม่เอี่ยมใช้ยังไม่ถึงปี แบบนี้ต้องไปลองใช้บริการซักหน่อยแล้วค่ะ

เริ่มกันที่นี่ค่ะ … สนามบินสุวรรณภูมิ มาตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นเลย

ตรวจสอบเที่ยวบินกันซักหน่อย
HX 768 ออกเดินทางจากกรุงเทพ เวลา 08:25 น.

ประตูที่ใกล้ที่สุดคือประตู 7 Check In Row แถว N ค่ะ

ใช้เวลาไม่นานก็โหลดกระเป๋าและรับ Boarding Pass มาเรียบร้อย

นอกจาก Boarding Pass ที่ได้รับมาแล้ว สำหรับ Business Class ก็จะได้เอกสารพิเศษขึ้นมาอีกหน่อยนั่นก็คือ

Fast Track : บัตรทางด่วนในส่วนของ Passport Control ตรวจเอกสารและ Passport

Sky Lounge : ห้องรับรองระหว่างรอขึ้นเครื่อง

ก่อนเข้าไปในส่วนของ Passport Control อย่าลืมกรอกเอกสาร Departure & Arrival Card ให้เรียบร้อยก่อนด้วยน่ะค่ะ

เมื่อผ่านเข้ามาจาก Passport Control แล้วก็จะพบกับ Duty Free ตลอดทาง สามารถเลือกหาซื้อสินค้ากันได้ตามอัธยาศัย
ส่วนป้าไก่ – ลุงเด้งขอไปนั่งทานอะไรที่ Sky Lounge รอเครื่อง Boarding ก่อนดีกว่า

มาถึง Sky Lounge แล้วค่ะ Lounge นี้จะใช้รวมกันหลายสายการบินตามในรูปเลย

ภายในก็จะมีห้องรับรอง อาหาร, เครื่องดื่ม, Computer และห้องอาบน้ำไว้คอยให้บริการ

ลิ้มรสอาหารเช้า Hong Kong Airlines เครื่องใหม่กิ๊ก บินเช้า กลับดึก อีก 1 ทางเลือก
http://forum.hongkongfanclub.com/index.php?topic=19287.0

เวลา 07:50 ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องที่ Gate E9

ลำนี้แหละ A330 ที่จะพาเราไปฮ่องกง … ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ

เข้ามาภายในเครื่องก็มาที่ส่วนของ Business Class กันก่อนเลยค่ะ

ในส่วนของ Business Class จะมีทั้งหมด 4 แถว ในแต่ละแถวจะมี 6 ที่นั่ง แบ่งเป็น 2 – 2 – 2 ค่ะ

มองย้อนกลับไปด้านหน้า

ภาพโดยรวมค่อนข้างกว้างขวาง และดูสะอาดตามาก ๆ

เอกสารในกระเป๋าด้านหน้าของเราก็จะมีหนังสือให้อ่าน คู่มือความปลอดภัย และหูฟัง

ช่องตรงกลางจะเป็นถุงใส่รองเท้าแตะค่ะ เผื่อใครอยากเปลี่ยนเป็นรองเท้าใส่สบาย ๆ บนเครื่อง

ระหว่างที่นั่ง จะเป็นโคมไฟส่วนตัว ที่เสียบหูฟังบนเครื่อง ปลั๊ก และช่อง USB สำหรับชาร์ตอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเรา

ปุ่มต่าง ๆ สำหรับการปรับเบาะที่นั่ง

สามารถกางออกได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางของต่าง ๆ

ถาดวางอาหารจะเก็บอยู่ด้านข้างของที่นั่ง

TV ส่วนตัวก็เป็นแบบพับเก็บได้

ดึงขึ้นมาและปรับองศาให้สามารถดูได้ชัดเจน เมนูจะมีให้เลือก 2 ภาษาคือภาษาอังกฤษและจีน

รีโมทจะแอบอยู่ด้านข้างลำตัวของเรา

คราวนี้ก็เสียบหูฟังดูหนังกันได้อย่างเพลิดเพลินกันเลย

ตัวอย่าง In Flight Entainment

ลองดูวีดีโอสั้น ๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Business Class กันนะ่ค่ะ

คราวนี้เรามาดูในส่วนของ Economy Class กันบ้างค่ะ

ที่นั่งด้านริมหน้าต่างจะมี 2 ที่นั่ง ส่วนตรงกลางจะมี 4 ที่นั่ง แต่ละแถวก็มีทั้งหมด 8 ที่นั่งค่ะ (2-4-2)

มี TV ส่วนตัวทุกที่นั่ง

ใหม่และสะอาดมาก ๆ ค่ะ

TV ส่วนตัวพร้อม Remote Control

ก่อนเครื่องออกเรามาดูวีดีโออีกชิ้นหนึ่งเป็นภาพรวมของภายในเครื่องบินน่ะค่ะ
(วีดีโอนี้ถ่ายแข่งกับเวลาเนื่องจากไม่อยากรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ค่ะ)

เครื่องพร้อม ผู้โดยสารพร้อม ออกเดินทางกันเลย

เมื่อเครื่องทะยานขึ้นฟ้าได้ที่แล้ว ก็ถึงเวลาเสริฟอาหารเช้ากลางเวหา
(รอรีวิวเต็ม ๆ จากลุงเด้งน่ะค่ะ)

ของ Economy ก็ไม่น้อยหน้า จัดเสริฟได้อย่างสวยงามเช่นกัน

ทานเสร็จก็แวะไปสำรวจในห้องน้ำซักหน่อย … เครื่องใหม่ อะไรก็ใหม่หมดไม่เว้นในห้องน้ำ

อุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน

มีหน้าต่างให้ชมวิวด้วยนะค่ะ

เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เค้าก็จะหรี่ในห้องโดยสารลง เพื่อทุกท่านจะได้พักผ่อนกันค่ะ

เมื่อได้เวลาใกล้ถึงฮ่องกง เจ้าหน้าที่ก็จะเปิดไฟพร้อมกับประกาศข้อมูลต่าง ๆ และให้รัดเข็มขัดนิรภัยเตรียม Landing

ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกซักรูปก่อนลงจากเครื่อง

จากนั้นก็เดินไปตามลูกศรป้าย “Immigration” เพื่อตรวจ Passport และเอกสารตรวจคนเข้าเมือง
(เจ้าหน้าที่จะแจกใบตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงบนเครื่องค่ะ อย่าลืมกรอกให้เรียบร้อยก่อนเครื่องลงนะ่ค่ะ)

เมื่อผ่าน Immigration เรียบร้อยแล้วก็เช็คหน้าจอ Monitor ซักเล็กน้อย เพื่อเช็คว่ากระเป๋าเดินทางของเราสามารถรับได้ที่สายพานไหน

ถ้าเดินทางไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ หรือเป็นแพ๊กเกจที่มีไกต์มารอรับ จะต้องเดินออกมาทาง Arrival Hall A น่ะค่ะ จะได้ไม่พลาดจุดนัดหมาย

หากเดินทางเข้าเมืองเอง จะไปโดย Airport Express / City Bus / Taxi / Hotel Coach ก็เดินออกมาทางนี้เลยค่ะ

รีวิวทางเลือกในการเดินทางจากสนามบินฮ่องกงเข้าเมือง
http://forum.hongkongfanclub.com/index.php?topic=6537.0

คราวนี้เรามาดูขากลับกันบ้างน่ะค่ะ
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทางสายการบิน Hong Kong Airlines จะย้ายมาอยู่ที่สนามบินฮ่องกง Terminal 1 (Row K) แล้วน่ะค่ะ

สายการบินที่ต้องมาขึ้นที่ Terminal 2 มีดังนี้ค่ะ หากไม่มีรายชื่อในนี้จะเป็นที่ Terminal 1 ทั้งหมดค่ะ

เข้าคิวยื่น Passport เพื่อรับ Boarding Pass และโหลดกระเป๋ากัน

จากนั้นก็เข้าไปในส่วนของ Departure กัน เช็ค Gate ที่เราจะต้องขึ้นเครื่องแล้วก็เดินไปตามป้ายบอกทางเลยค่ะ

บาง Gate ก็จะต้องนั่งรถไฟด้วย ไม่ต้องตกใจน่ะค่ะ เดินตามป้ายบอกทางตามเลข Gate ของเราไว้ไม่ผิดแน่นอน

ออกจากรถไฟแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปตามป้ายเลย

เดี๋ยวเราแวะไปเติมพลังที่ Hong Kong Airlines Lounge กันก่อนค่ะ

บรรยากาศภายในโอ่อ่ามากค่ะ มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เก้าอื้นวด และคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ท

น่าทานไม๊ค่ะ
รอรีวิวเต็ม ๆ จากลุงเด้งนะ่ค่ะ

และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง
HK767 ออกเดินทางจากฮ่องกง 22:20 ถึงเมืองไทย 23:50 น.

เริ่มออกเดินทางกันเลย

แล้วก็ถึงเวลารับประทานอาหารค่ำ

รีวิวอาหารมื้อดึก Hong Kong Airlines ขากลับจากฮ่อง
http://forum.hongkongfanclub.com/index.php?topic=19297.0

ทานเสร็จก็ขอพักผ่อนซักหน่อยน่ะค่ะ

เวลาเกือบเที่ยงคืนก็ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นทางเลือกให้กับท่านอีกหนึ่งสายการบินที่น่าสนใจน่ะค่ะ

ลืมฝากเรื่องน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางค่ะ สายการบินนี้จะให้เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ท่านละ 1 ใบและน้ำหนักต้องไม่เกิน 23 กิโลน่ะค่ะ
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ ทางสายการบินมีการปรับการจำกัดกระเป๋าและน้ำหนักในการโหลดกระเป๋าดังนี้ค่ะ

เด็ก / ผู้ใหญ่ :
Economy สามารถโหลดกระเป๋าได้ 1 ชิ้น / ท่าน และน้ำหนักรวมทั้งหมดได้ไม่เกิน 23 Kgs.
Business สามารถโหลดกระเป๋าได้ 3 ชิ้น / ท่าน และน้ำหนักรวมทั้งหมดได้ไม่เกิน 69 Kgs.

Infant : ได้ท่านละ 23 Kgs. (50lbs)
Business / Economy : สามารถโหลดกระเป๋าได้ 1 ชิ้น + รถเข็น 1 คันต่อท่านค่ะ

Member of Fortune Wings Club (Gold / Silver Member) :
Economy สามารถโหลดกระเป๋าได้ 2 ชิ้น / ท่าน และน้ำหนักรวมทั้งหมดได้ไม่เกิน 23 Kgs.
Business สามารถโหลดกระเป๋าได้ 4 ชิ้น / ท่าน และน้ำหนักรวมทั้งหมดได้ไม่เกิน 69 Kgs.

Extra Baggage Charge
– กระเป๋าที่เกินหนึ่งใบแต่น้ำหนักไม่เกิน 23 Kgs. จะเสียค่าบริการเพิ่มอีกใบละ HK$500 เหรียญ / ชิ้น
– กระเป๋าที่เกินชิ้นที่ 2 – 4 ใบ แต่ละใบน้ำหนักไม่เกิน 23 Kgs. จะเสียค่าบริการเพิ่มอีกใบละ HK$1,000 เหรียญ / ชิ้น
– หากน้ำหนักกระเป๋าเกิน 23 Kgs. – 32 Kgs. จะต้องเสียค่าบริการเพิ่มอีกใบละ HK$200 เหรียญ / ชิ้น